ปัจจุบันเครื่องแปลภาษาถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อช่วยในการสื่อสารภาษาต่างประเทศกรณีเดินทางไปต่างประเทศที่ไม่คุ้นเคย เข้าร่วมการประชุมสำคัญ ธุรกิจระหว่างประเทศ หรือแม้แต่กระทั่งสื่อสารกับเพื่อนชาวต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันนี้ เครื่องแปลภาษาได้พัฒนาไปไกลกว่าเดิมมากจากเวอร์ชั่นแรก ๆ ซึ่งมีขนาดใหญ่ หนัก และมีตัวเลือกการแปลภาษาค่อนข้างน้อย ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันที่หน้าตามีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ง่ายต่อการพกพา อีกทั้งมีให้เลือกใช้งานได้หลายภาษาในเครื่องเดียวกัน การพัฒนาเครื่องแปลภาษาโดยผ่านเทคโนโลยี AI ขั้นสูง มีอินเตอร์เฟซการใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็จะมีอินเตอร์เฟซหลัก ๆ 2 แบบ คือ แบบหน้าจอสัมผัส (Touch Screen) หรือแบบปุ่มกด (Button Interface) ในบางรุ่นก็จะมีทั้งสองแบบผสมผสานกันไป
ล่าสุดการพัฒนาเครื่องแปลภาษาอัจฉริยะ ปี 2023 ก็เน้นมาใช้เชิงอินเตอร์เฟซแบบหน้าจอสัมผัส (Touch Screen) มากขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้งานเครื่องแปลภาษาสามารถโต้ตอบกับหน้าจอเครื่องแปลได้โดยตรง ได้รับการตอบรับและแสดงผลทันที เหมาะสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการใช้งานหน้าจอสัมผัสอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีประโยชน์ในแง่การใช้งานฟังก์ชั่นอื่น ๆ ซึ่งในรุ่นใหม่ ๆ นอกจากเครื่องแปลภาษาจะทำหน้าที่ในการแปลภาษาต่าง ๆ ที่มีในระบบแล้ว ยังสามารถป้อนข้อมูล หรือตัวเลือกต่าง ๆ มีฟังก์ชั่นการใช้งาน Chatgpt หรือฟังก์ชั่นการใช้งานอื่น ๆ เพิ่มเติม ซึ่งการป้อนข้อมูลโดยใช้หน้าจอสัมผัสก็จะมีความยืดหยุ่นการใช้งานมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับอินเตอร์เฟซรุ่นเดิม ๆ ที่มีเพียงแต่ปุ่มกดเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ในบางโอกาส บางสถานการณ์ เช่น ตอนที่ผู้ใช้งานกำลังสวมถุงมือหรือหน้าจออุปกรณ์มีการเปียกน้ำ อินเตอร์เฟซแบบปุ่มก็จะมาช่วยในส่วนนี้ได้ ทำให้ผู้ใช้งานควบคุมฟังก์ชั่นได้ดีขึ้น แม่นยำขึ้น อย่างไรก็ตาม อินเตอร์เฟซปุ่มอาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดการสับสนได้ หากมีการออกแบบผลิตภัณฑ์มาไม่ดีตั้งแต่ต้น หรือมีปุ่มกดมากเกินไป ทำให้ใช้งานยากลำบาก
แล้วถามว่า อินเตอร์เฟซแบบไหนดีกว่ากัน ? เมื่อจะต้องเลือกใช้งานเครื่องแปลภาษา คำตอบก็จะแตกต่างกันไปนะครับ ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้งานด้วย มีงานวิจัยที่เคยทำขึ้นพบว่า ผู้ใช้ชอบหน้าจอแบบสัมผัสกรณีใช้งานฟังก์ชั่นซับซ้อนมากขึ้น แต่สำหรับฟังก์ชั่นง่าย ๆ เช่น การเปลี่ยนระดับเสียง กดปุ่มโต้ตอบภาษา ก็จะมีอีกส่วนหนึ่งที่ชอบใช้งานอินเตอร์เฟซแบบปุ่มซึ่งง่ายต่อการเรียนรู้และทำความเข้าใจมากกว่า ซึ่งเครื่องแปลภาษาในร้านปกติก็จะมีทั้ง 2 อินเตอร์เฟซนะครับ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานครับ
การพิจารณาว่าแบบไหนดีกว่าสำหรับเครื่องแปลภาษา ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความเข้าใจในการทำงาน การตั้งค่าเครื่องแปลภาษา ความสามารถของเครื่องแปลภาษาด้วยครับ หน้าจอสัมผัสก็เหมาะแต่ต้องลองเครื่องจริงหรือเช็คขนาดก่อนด้วยว่าจับถนัดมือไหม การสัมผัสจะสะดวกไหม ถ้าหน้าจอเล็กมากเกินไปอันนี้ก็อาจไม่สะดวกเท่าไหร่นัก ในขณะที่อินเตอร์เฟซแบบปุ่ม ก็ต้องลองจับทดสอบ หรือได้ลองกดปุ่มดู เทียบตำแหน่งดูว่า การกดถนัดมือ สะดวกไหม ปุ่มอยู่ชิดกันเกินไปไหม เพราะจะมีบางแบบที่ออกแบบมาในตลาดไม่ได้ทำการบ้านมาในจุดนี้ พอผู้ใช้งานมาลองใช้จริง ๆ แล้วไม่ตอบโจทย์ ก็จะไม่คุ้มค่าได้นะครับ สุดท้ายก็อาจต้องค่อย ๆ ศึกษาตามรุ่นที่เราสนใจถึงอินเตอร์เฟซทั้งสองแบบ ดูคลิปวีดีโอเปรียบเทียบ หรือไปทดลองของจริงก่อน ก็จะได้เครื่องแปลภาษาที่ตรงใจและคุ้มค่ากับการใช้งานของเราอย่างดีที่สุดครับ